ขังหลานตาบอด-เป็นใบ้ ตัวเองไปเก็บผักแลกข้าว
ผู้ใหญ่บ้านโพธิ์ชัย ม.23 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 28 กันยายน ว่า นางบุญศรี อุทัยทะวัง อายุ 62 ปี จ.กาฬสินธุ์ ได้ขัง ด.ช.สราวุฒิ อุทัยทะวัง หรือน้องทัช อายุ 4 ขวบ หลานชาย ซึ่งพิการตาบอดทั้ง 2 ข้างและเป็นใบ้ ไว้ในกรงไม้ไผ่กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร บนกระท่อมไม้ข้างบ้านอยู่เป็นประจำเพราะไม่มีเวลาเลี้ยงดู
ตนอาศัยอยู่กับน้องทัช แค่ 2 คน ซึ่งเป็นลูกของนายสมร ลูกชายของตน โดยไปได้ภรรยาขณะไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ จากนั้นแม่ของน้องทัชตั้งท้องได้ 6 เดือนก็คลอดน้องทัชออกมาก่อนกำหนด และทิ้งน้องทัชแล้วหนีไป ทำให้นายสมร ต้องนำน้องทัช มาให้ตนเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะจนถึงปัจจุบัน
โดยไม่เคยส่งข่าวหรือส่งเงินมาเลี้ยงดู ทำให้ตนซึ่งไม่มีรายได้ประกอบกับอายุมากแล้วจึงต้องเลี้ยงหลานแบบอดๆอยากๆ เพราะฐานะยากจน และจำเป็นต้องขังน้องทัชไว้ในกรงไม้ไผ่มาตลอด 4 ปี เนื่องจากต้องออกไปเก็บผักเพื่อนำไปแลกข้าวสารและอาหารกับเพื่อนบ้านมาประทังชีวิตไปวันๆจึงไม่มีเวลาเลี้ยงดู ซึ่งหากปล่อยไว้ลำพังก็กลัวว่าจะเกิดอันตรายเพราะหลานตาบอด
“ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาฉันต้องลำบากทั้งกายและใจ เพราะเวลาที่ออกไปเก็บผักข้างนอกต้องขังหลานไว้เพียงลำพัง ซึ่งทำให้จิตใจฉันเจ็บปวดทรมาน ร้องไห้ทุกครั้ง เพราะสงสารหลานที่ต้องอยู่ในกรง แต่หากไม่ทำอย่างนี้ เราทั้งสองคนก็ต้องอดตาย เพราะไม่มีรายได้จากที่อื่น แม้บางครั้งจะมีเพื่อนบ้านนำอาหารมาแบ่งปันให้แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ต้องออกไปเก็บผักเช่นเดิม ซึ่งสิ่งที่ต้องการในตอนนี้ก็คือขอให้น้องทัชได้มองเห็นบ้าง มองเห็นเล็กน้อยก็ยังดี เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง”
ปัจจุบันนางบุญศรี ได้รับการช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากเทศบาลตำบลบัวบานเดือนละ 500 บาท ส่วนน้องทัชได้นมและเบี้ยผู้พิการเดือนละ 500 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในชีวิต ทำให้ชีวิตของน้องทัชน่าสงสารมาก สังเกตว่าเวลานำตัวออกจากกรงขัง น้องทัชจะหัวเราะร่าเริง เหมือนเด็กทั่วๆ ไป แต่หากนำเข้าไปในกรงขังน้องทัชจะมีอาการขัดขืนและร้องไห้ เหมือนไม่อยากถูกจองจำ ตนกับเพื่อนบ้านก็คอยช่วยเหลือบ้างตามอัตภาพ จึงวิงวอนสื่อมวลชนผ่านไปยังผู้ใจบุญให้ช่วยเหลือครอบครัวนางบุญศรีด้วย
สำหรับผู้ที่มีความประสงค์ให้การช่วยเหลือ ติดต่อประสานไปยัง นายสมยศ ยนต์ชัย นายกเทศมนตรีบัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ โทร.085-4567733
ข่าวโดย : มติชนออนไลน์
ตนอาศัยอยู่กับน้องทัช แค่ 2 คน ซึ่งเป็นลูกของนายสมร ลูกชายของตน โดยไปได้ภรรยาขณะไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ จากนั้นแม่ของน้องทัชตั้งท้องได้ 6 เดือนก็คลอดน้องทัชออกมาก่อนกำหนด และทิ้งน้องทัชแล้วหนีไป ทำให้นายสมร ต้องนำน้องทัช มาให้ตนเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะจนถึงปัจจุบัน
โดยไม่เคยส่งข่าวหรือส่งเงินมาเลี้ยงดู ทำให้ตนซึ่งไม่มีรายได้ประกอบกับอายุมากแล้วจึงต้องเลี้ยงหลานแบบอดๆอยากๆ เพราะฐานะยากจน และจำเป็นต้องขังน้องทัชไว้ในกรงไม้ไผ่มาตลอด 4 ปี เนื่องจากต้องออกไปเก็บผักเพื่อนำไปแลกข้าวสารและอาหารกับเพื่อนบ้านมาประทังชีวิตไปวันๆจึงไม่มีเวลาเลี้ยงดู ซึ่งหากปล่อยไว้ลำพังก็กลัวว่าจะเกิดอันตรายเพราะหลานตาบอด
“ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาฉันต้องลำบากทั้งกายและใจ เพราะเวลาที่ออกไปเก็บผักข้างนอกต้องขังหลานไว้เพียงลำพัง ซึ่งทำให้จิตใจฉันเจ็บปวดทรมาน ร้องไห้ทุกครั้ง เพราะสงสารหลานที่ต้องอยู่ในกรง แต่หากไม่ทำอย่างนี้ เราทั้งสองคนก็ต้องอดตาย เพราะไม่มีรายได้จากที่อื่น แม้บางครั้งจะมีเพื่อนบ้านนำอาหารมาแบ่งปันให้แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ต้องออกไปเก็บผักเช่นเดิม ซึ่งสิ่งที่ต้องการในตอนนี้ก็คือขอให้น้องทัชได้มองเห็นบ้าง มองเห็นเล็กน้อยก็ยังดี เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง”
ปัจจุบันนางบุญศรี ได้รับการช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากเทศบาลตำบลบัวบานเดือนละ 500 บาท ส่วนน้องทัชได้นมและเบี้ยผู้พิการเดือนละ 500 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในชีวิต ทำให้ชีวิตของน้องทัชน่าสงสารมาก สังเกตว่าเวลานำตัวออกจากกรงขัง น้องทัชจะหัวเราะร่าเริง เหมือนเด็กทั่วๆ ไป แต่หากนำเข้าไปในกรงขังน้องทัชจะมีอาการขัดขืนและร้องไห้ เหมือนไม่อยากถูกจองจำ ตนกับเพื่อนบ้านก็คอยช่วยเหลือบ้างตามอัตภาพ จึงวิงวอนสื่อมวลชนผ่านไปยังผู้ใจบุญให้ช่วยเหลือครอบครัวนางบุญศรีด้วย
สำหรับผู้ที่มีความประสงค์ให้การช่วยเหลือ ติดต่อประสานไปยัง นายสมยศ ยนต์ชัย นายกเทศมนตรีบัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ โทร.085-4567733
ข่าวโดย : มติชนออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น